หลายคนคงสงสัยนะครับว่าทำไมฉันถึงไม่โชคดีเหมือนคนนั้น ฉันถึงไม่โชคดีเหมือนคนนี้หรืออาจจะบอกว่า “หากฉันโชคดีเหมือนคนนี้นะฉันก็จะสบายไปนาน” แล้ว แต่สุดท้ายก็จบด้วยการนั่งเพ้อฝันไปวันๆแล้วก็นั่งบ่นกับตัวเองว่าทำไมถึงยังไม่โชคดีสักที
หนังสือเล่มนี้จะมีคำตอบให้ครับ!
ต้องเกริ่นก่อนนะครับว่าหนังสือเล่มนี้เนี่ยเป็น หนังสือ GoodLuck สุดคลาสสิคที่ขายดีต่อเนื่อง มาเป็นระยะเวลานาน และ Concept ของหนังสือเนี่ยก็น่าสนใจมากเพราะว่าจะเน้นในเรื่องของการลงมือทำเพื่อสร้างโชคดีขึ้นมานั่นเอง
หนังสือเล่มนี้เป็นนิทานที่อ่านสนุกจบได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงครับ แต่งโดย Alex Robira และ Fernando Trias de Bes
โดยประเด็นหลักๆในหนังสือจะเป็นการบอกถึงข้อแตกต่างระหว่างคำว่า “โชค” กับ “โชคดี” ผ่านเนื่องเรื่องดังนี้
โดยการเริ่มเนื้อเรื่องขึ้นมาจากชายแก่สองคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วัยเด็กแต่ก็ได้แยกทางกันไปเติบโตขึ้นในตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งได้กลับมาพบกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งและทั้งคู่ต่างได้ถามถึงชีวิตที่ผ่านมาซึ่งกันและกัน โดยทั้งสองคนนี้มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือทั้งคู่ได้สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา แต่ต่างกันตรงที่คนหนึ่งนั้นประสบความสำเร็จ แต่อีกคนนั้นไม่ประสบความสำเร็จและได้ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งคนที่ล้มเหลวนั้นก็เอาแต่โทษว่าตัวเองนั้นโชคร้าย โชคชะตาไม่เข้าข้างเขา ทำอะไรก็พลาดไปหมด ส่วนคนแก่อีกคนที่โชคดีก็ได้เล่านิทานเรื่องหนึ่งให้เขาฟัง
นิทานเรื่องพ่อมดเมอร์ลิน ในนิทานมีตัวละครหลักคืออัศวินทั้งสอง ซึ่งได้เดินทางไปหาต้นโคลเวอร์วิเศษสี่แฉกจะโชคดีไปตลอด หากใครได้ครอบครองจะได้ทั้งชื่อเสียง เงินทอง ลาภยศ อำนาจ แต่ลักษณะนิสัยของอัศวินทั้งสองนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบระหว่างอัศวินสองคนเช่นเดียวกัน (ช่วยให้เห็นภาพได้ง่าย) อัศวินทั้งสองคนนี้ออกตามหาสิ่งเดียวกัน คือต้นโคลเวอร์ใบสี่แฉกซึ่งเชื่อว่า ถ้าใครได้ต้นไม้ดังกล่าวไปครองจะเป็นผู้โชคดีตลอดกาล เขาทั้งสองก็เลยแยกกันออกไปค้นหากันในป่าใหญ่เป็นเวลา 7 วัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ วิธีการในการได้มาซึ่งต้นไม้ดังกล่าวนั้น ในขณะที่คนหนึ่งไม่ทำอะไรเลยนอกจากรอโชคเดินมาหาเขา แล้วเอาต้นไม้มาให้ อีกคนหนึ่งลงมือเตรียมพร้อมมากมายเพื่อให้ตัวเองได้เจอกับต้นที่ว่านี่ จะเรียกว่าปลูกต้นโคลเวอร์ขึ้นมาเองก็คงได้ด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่างเช่นหากเราต้องการที่จะการงานที่ดี เงินเดือนสูงๆ เราก็ต้องเตรียมสภาพแวดล้อมของตัวเราให้ดีไล่ไปตั้งแต่พื้นฐาน สืบหาข้อมูลงานที่ต้องการอยากจะทำ,ส่งใบสมัคร Resume ไปที่องค์กรบริษัทนั้นๆ, พัฒนาทักษะความสามารถของตัวเองทั้งด้านการงาน, ด้านภาษา, อื่นๆให้เก่งขึ้นและเป็นอันดับต้นๆของสายงานนั้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสร้าง “โชคดี” ขึ้นมาโดยการค่อยๆเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมรอแค่เวลาให้มันเกิดขึ้นนั่นเอง
ถ้าหากเราเอาฝันถึงโชคจะเข้ามาอยู่ๆก็หวังให้เจ้านายปรับเงินเดือนขึ้นทั้งๆที่ตัวเราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ก็คงหวังโชค แบบลมๆแล้งๆ
สรุปกฎแห่งความโชคดีทั้งหมดดังนี้
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 1
โชคนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่โชคดีเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นมันจะคงอยู่ตลอดไป
อย่างที่ได้กล่าวไปครับ โชคนั้นอยู่ได้ไม่นานเพราะมันอาจจะเกิดจากสภาพแวดล้อมที่เข้ามา แต่สำหรับโชคดีนั้น เราจะต้องลงมือทำมันขึ้นมา เราต้องมีวินัย หมั่นพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ไม่หยุด ไม่อยู่กับที่ และเชื่อว่ามีโอกาสดีๆจะเข้ามาหาเรา
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 2
คนที่อยากจะมีโชคดีมีมาก แต่คนที่ตัดสินใจไขว่คว้าหามาให้ได้มีน้อย
คนส่วนใหญ่ได้แต่เพ้อฝันว่าสักวันฉันจะโชคดี ฉันจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ได้แต่ฝัน ความต่างของคนที่โชคดีนั้นคือ “เขาลงมือทำ”
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 3
หากตอนนี้คุณไม่มีโชคดี บางทีอาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมยังเป็นสภาวะเดิมๆ เพื่อให้โชคดีมาเยือน คุณจำต้องสร้างสภาวะใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น
บางครั้งการที่คุณพยายามทำสิ่งต่างๆเพื่อให้เกิดความโชคดีแล้วแต่ยังไม่ได้เกิดขึ้น ลองเปลี่ยนวิธีการในบางอย่าง หรือเปลี่ยนรูปแบบในการทำงานเพื่อให้เกิดโชคดีขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น เราพยายามลดน้ำหนักโดยการวิ่งทุกวัน แต่ ก็ยังไม่ได้ลดดั่งใจที่คิดไว้ ให้ลองเพิ่มเติมโดยการควบคุมอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน และอาจเล่น Weight Training ด้วยก็ได้ ซึ่งการเพิ่มเติมรูปแบบนี้จะทำให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น และส่งผลดีกับตัวเราในระยะยาว
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 4
การเตรียมสภาวะที่เหมาะสมสำหรับโชคดี ไม่ได้หมายความว่าให้หาผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์ด้วยจะนำโชคดีมาให้
ลองทำในสิ่งที่ทำให้เกิดสถานะ Win-Win situation เพราะการทำให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝั่ง ยิ่งทำให้เกิดความอยากประสบความสำเร็จร่วมกัน และก้าวไปข้างหน้าได้ไกล และไปได้เร็วยิ่งขึ้น
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 5
หากผัดผ่อนการเตรียมสภาวะที่เหมาะสม “ไว้วันหน้า” บางทีโชคดีอาจจะไม่มาเยือนเลย การสร้างสภาวะที่เหมาะสมต้องมีก้าวแรก…เริ่มก้าวเสียตั้งแต่วันนี้!
อย่าผัดวันประกันพรุ่งครับ เพราะโอกาสที่ผ่านมาอาจเข้ามาหาเราอาจมีแค่รอบเดียวในชีวิต เพราะฉะนั้นเราต้องทำการเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากใครยังไม่ได้เริ่ม ก็ให้เริ่มเสียตั้งแต่วันนี้
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 6
แม้ในสภาวะที่ดูเหมือนว่าพร้อมแล้ว บางครั้งโชคดีก็ไม่มาเยือน จงมองหารายละเอียดเล็กๆน้อยๆ สภาวะที่ดูเผินๆ เหมือนจะไม่จำเป็น..แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
หากโชคดียังไม่เข้ามา ลองดูในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆครับ เหมือนกับการที่ออกกำลังกายลดน้ำหนัก เราวิ่งทุกวัน แต่ไม่ได้คุมอาหารที่เข้าร่างกายเลย สรุป การกิน (Input) มากกว่า การออกกำลังกาย (Output) ก็ยังทำให้น้ำหนักไม่ลงอยู่ดี ดังนั้นถ้าเราแค่คุมอาหารก็สามารถลดน้ำหนักได้แล้วครับ
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 7
คนที่เชื่อแต่เรื่องโชคจะเห็นว่า การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเป็นเรื่องไร้สาระ คนที่ลงมือสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้เกิดขึ้นจะไม่กังวลเรื่องโชค
การที่เราพัฒนาตัวเองตลอดเวลาเพื่อเตรียมสภาวะที่เหมาะสมในการต้อนรับความโชคดี จะไม่กังวลเรื่องโชค เพราะเขาจะรู้สึกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้วและจะรอเวลาเท่านั้นที่โชคดีจะบังเกิดขึ้น
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 8
ไม่มีใครขายโชคได้ โชคดีนั้นไม่มีขาย จงอย่าเชื่อใจผู้เสนอขายโชค
ไม่มีใครขายความสำเร็จได้ครับ สิ่งเหล่านี้เราต้องลงมือทำด้วยตัวเองถึงจะประสบความสำเร็จได้
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 9
เมื่อได้สร้างสภาวะที่เหมาะสมทุกประการแล้ว จงอดทนรอ อย่าละทิ้งไป เพื่อให้โชคดีมาเยือน จงเชื่อมั่น
กฎแห่งความโชคดีข้อที่ 10
การสร้างโชคดีก็คือ การเตรียมสภาวะแวดล้อมให้พร้อมสำหรับโอกาส แต่โอกาสไม่ใช่เรื่องของโชคหรือความบังเอิญ โอกาสมีอยู่เสมอ
กฎข้อที่คือบทสรุปทั้งหมดของคำว่า “โชคดี” มันคือการเตรียมตัว เตรียมสภาพแวดล้อม เตรียมความพร้อม เพื่อรอ “โอกาส” และแน่นอนครับ เมื่อมีทั้ง ความพร้อมรวมโอกาสที่เข้ามาผสมกัน มันก็คือความโชคดีนั้นเอง
เพื่อนๆน่าจะเห็นภาพแล้วนะครับว่าการสร้างความโชคดีขึ้นมาเนี่ยเราจะทำยังไง และแน่นอนครับมันต้องอาศัยความต่อเนื่องอีกด้วย
สุดท้ายนี้นะครับขอให้เพื่อนๆ ได้เจอกับความโชคดีในชีวิตและขอให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปนะครับ
📖 หนังสือ : Good Luck สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง
📍 ผู้แต่ง : Alex Robira และ Fernando Trias de Bes
สามารถสั่งหนังสือได้ที่ ลิงค์นี้
แนะนำบทความที่น่าสนใจ