ขี้เกียจ

สรุปเน้นๆ เพราะ ขี้เกียจ วุ่นวาย ชีวิตเลยสบายแบบนี้

สรุปเน้นๆ เพราะ ขี้เกียจ วุ่นวาย ชีวิตเลยสบายแบบนี้

หนังสือเล่มนี้ผมเดินเข้าไปในร้าน SE-ED แล้วเห็นหนังสือสีเขียว มีตัวสลอธ นอนเตียงรวมถึงกำลังถือชานมอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความขี้เกียจ รู้สึกแปลกใจต้องหยิบขึ้นมาอ่านเลยแล้วจึงซื้อกลับบ้านซะเลย เพราะอ่านแล้วคร่าวๆแล้วรู้สึกถูกใจตรงจริต ขี้เกียจ เยอะดีครับ ผู้แต่งคือคุณนะโอะยุกิ ฮนดะ (CEO บริษัทเลเวอร์เรจคอนซัลติ้ง) ซึ่งมีทั้งหมด 146 หน้าเล็ก สามารถอ่านเนื้อหาเล่มนี้ค่อนข้างง่าย เพลิน ประมาณ 2 ชั่วโมงก็จบครับ

เนื้อหาเล่มนี้กล่าวถึงจะพูดไปถึงเคล็ดลับต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือวิธีคิด, ชีวิตประจำวัน และการทำงาน รวมมีทั้งหมด 55 กฎ ผมจะยกตัวกฎที่น่าสนใจในแต่ละหมวดมาอธิบายนะครับ

1.เพราะขี้เกียจก็เลย…ตั้งเป้าหมาย 

การที่เราตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนจะทำให้เราทำเฉพาะในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นๆ รวมถึงไม่เกิดเรื่องยุ่งยากตามมา ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น คุณก็ทำการศึกษาจุดหมายปลายทาง โรงแรมที่พักที่ไหน เครื่องบินสายการบินอะไร อาหารที่ไหนอร่อย (ดีกว่าที่คุณไปที่ญี่ปุ่นแบบไม่รู้แผนการอะไรเลยเพราะไม่ได้ตั้งเป้าหมายและศึกษาแผนที่วางไว้)

2.เพราะขี้เกียจก็เลย…ฟังที่คู่สนทนาพูด

สิ่งสำคัญในการขายรวมถึงการสื่อสาร คือ การตรวจสอบให้รู้แน่ชัดถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการแล้วเสนอสิ่งที่เขาต้องการให้เขา (ดีกว่าเราพูดไปเรื่อยๆ เหนื่อย ไม่ได้ประโยชน์อะไร)

3.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่ล้มเลิก

ความสำเร็จเกิดจากการกระทำต่อเนื่อง ดังนั้นอย่าเอาอารมณ์ว่าไม่อยากทำมาเป็นตัวกำหนดให้ไม่ทำ แต่ให้ใช้วิธีการค่อยๆทำทีละเล็กทีละน้อยในการกระทำงานชิ้นนนั้นๆ

4.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้

การยึดติดกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ทำให้เสียเวลา และเกิดความเครียดเปล่าๆ ให้เอาเวลาไปทำอะไรที่มีประโยชน์ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น รถติด คุณไม่สามารถทำให้รถวิ่งเร็วขึ้นได้ให้หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านพัฒนาตัวเองหรือท่องศัพท์ไปดีกว่า

5.เพราะขี้เกียจก็เลย…ตรงไปตรงมา

การใช้ความเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมรวมถึงความยืดหยุ่นจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นและสบายขึ้น

6.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่เสแสร้งทำเป็นคนดี

การแสร้งทำเป็นคนดีจะทำให้ถูกคาดหวังจากคนรอบข้าง อุปสรรคก็จะมากขึ้นและสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากไปในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การที่คุณทำงานล่วงเวลาเพราะแสร้งเป็นคนดีๆ แล้วอยู่มาวันนึงคุณไม่ได้ทำจะทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่กว่าคนปกติ สู้ทำงานเลิกตรงเวลาไปเลยดีกว่า

7.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่คิดอะไรยากๆ

ต้องเข้าใจก่อนว่าผลลัพธ์ไม่จำเป็นจะต้องเกิดจากการทำอะไรยากๆ เพราะมันเกิดจากการวางแผนและสามารถปฎิบัติได้จริง การวางแผนให้สามารถทำได้ง่ายจะเกิดผลลัพธ์ได้ดีกว่า รวมถึงยังสามารถทำซ้ำได้อีกด้วย (ลองตรวจสอบง่ายๆว่าความคิดนั้นอธิบายให้คนอื่นฟังเข้าใจไหม)

8.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่บ่น

การบนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแถมยังให้มีพลังลบเพิ่มขึ้นทั้งตัวเองและคนรอบข้าง สู้เอาเวลาไปหาวิธีแก้ปัญหาดีกว่าครับ

9.เพราะขี้เกียจก็เลย…ทำให้ชิน

เพื่อให้หลุดพ้นจากเรื่องยุ่งยาก อันยาวนาน คือการมีความรู้และทำตามขั้นตอนหลายๆอย่าให้ได้จนชินเอาไว้ก่อนนั้นดีที่สุด

10.เพราะขี้เกียจก็เลย…ยึดติดกับรูปแบบ

ให้สร้างระบบหรือรูปแบบตัวเองขึ้นมาแล้วยึดติดกับรูปแบบนั้นเพราะการทำยึดติดกับรูปแบบจนเป็นนิสัยติดตัวนั้นเป็นสิ่งที่เราชอบ ยกตัวอย่างเช่นตั้งรูปแบบวันนึงเราจะตื่นนอน ทานอาหารกลางวัน เย็น เข้านอน รวมถึงเวลาอื่นๆให้ชัดเจน (ถ้าเราไม่เลือกรูปแบบที่เราสร้างเอง ก็จะไปยึดติดกับรูปแบบที่คนอื่นสร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว)

11.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่โทษคนอื่น

เอาเวลาที่ไปโทษคนอื่นมาปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นดีกว่า

12.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่มองการณ์ใกล้

ในการทำอะไรสักอย่างให้มองการณ์ไกลไว้ 5 ปี ถึง10 ปี อย่ามองแค่วันนี้ เดือนนี้เท่านั้น

13.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่พยายาม

ในที่นี้หมายถึงการสร้างระบบแบบกระทำไปเรื่อยๆ ไม่ได้ใส่พละกำลังให้หมดเพียงแค่ครั้งเดียว เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนต้องออมแรงวิ่งไปเรื่อยๆจนถึงเส้นชัย ดีกว่ามาวิ่งแบบจัดเต็มตั้งแต่แรกแล้วแรงหมดไม่ถึงเส้นชัย

14.เพราะขี้เกียจก็เลย…ให้ความสำคัญกับเวลา

ให้คิดว่าเวลานั้นมีอยู่จำกัด ความคิดที่ว่า “ใช้เวลาเพิ่มขึ้นประหยัดเงิน” นั้นไม่ถูกต้องเพราะเงินเป็นสิ่งที่หาเพิ่มได้ แต่เวลาไม่สามารถหาเพิ่มได้ การเสียดายเงินก็เลยไม่ซื้อหนังสืออ่าน เสียดายเงินก็เลยซื้อโทรศัพท์มือถือ ถ้าเราใช้เงินซื้อแล้วสามารถสามารถทำให้หาเงินได้เพิ่มขึ้น ประหยัดเวลา ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นจะดีกว่าครับ

15.เพราะขี้เกียจก็เลย…นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ในเวลา 24 ชั่วโมง การนอนและการลงทุนเป็นเวลาที่ควรแยกออกมาเป็นอันดับแรก

16.เพราะขี้เกียจก็เลย…ทิ้งข้าวของ

การที่มีสิ่งของเพิ่มมากขึ้น เราต้องใช้เวลาและพลังงานในการจัดการเก็บข้าวข้าวเพิ่มขึ้น ดังนั้นการซื้อของให้น้อยที่สุด และเมื่อซื่อมาแล้วให้ทิ้งของในจำนวนเท่ากับที่ซื้อมากจะทำให้เหลือของที่จำเป็นต้องใช้พอดีๆ

17.เพราะขี้เกียจก็เลย…ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ได้ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถควบคุมเงินอยู่ในมือตัวเองและสามารถนำไปลงทุนให้เงินงอกเงยได้เพิ่มขึ้น

18.เพราะขี้เกียจก็เลย…แบ่งเวลา

หากคุณมีการแบ่งเวลาที่จัดสรรไว้จะทำให้รู้สึกว่าไม่รู้สึกบังคับให้ทำเลยแม่แต่นิดเดียว และจะทำให้ทำสิ่งต่างๆได้แบบอัตโนมัติ การแบ่งเวลาควรใช้ความคิดแบบหักลบ เช่น 1 วันมี 24 ชั่วโมง ใช้เวลาลงทุนกับตัวเอง 2 ชั่วโมง เหลือ 22 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง เหลือ 14 ชั่วโมง ไปเรื่อยๆครับ

19.เพราะขี้เกียจก็เลย…กำหนดสิ่งที่จะไม่ทำ

ปกติเราคงคิดแต่สิ่งที่ต้องทำ แต่ข้อนี้ให้คิดถึงสิ่งที่จะไม่ทำ เช่น ไม่ทำงานนอกเวลา, ไม่พูดบ่น, ไม่ใจดีเกินไป, ไม่ไปทำงานวันหยุด ยิ่งคิดถึงการกระทำในแต่ละวันตาม “สิ่งไม่อยากทำ” จะทำให้ควบคุมการกระทำของตัวเองได้ดีกว่า

20.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่ไปสาย

หากเราลองเปรียบเทียบความยุ่งยากในการไปสายกับการรีบเตรียมตัวออกจากบ้านแล้ว ผลลัพธ์จากการไปสายนั้นมีเยอะกว่ามากมายมหาศาล หากเราไปถึงก่อนเวลาเราสามารถนั่งอ่านหนังสือไปเป็นการลงทุนพัฒนาตัวเองได้อีกด้วย

21.เพราะขี้เกียจก็เลย…ไม่พึ่งพาแต่บริษัท

ไม่มีกิจการไหนที่ได้รับการรับรองว่าจะมีอายุถึง 40 ปี คิดไว้ก่อนดีกว่าว่ากรณีส่วนใหญ่ อายุขัยของบริษัทจะสิ้นสุดก่อนอายุการทำงานของพนักงานเสียอีก ดังนั้นนอกจากที่จะทำงานแต่ในบริษัท ให้มองหาทักษะต่างๆที่ใช้สำหรับทำงานภายนอกด้วย เช่นทักษะไอที, ภาษา, การพูด

22.เพราะขี้เกียจก็เลย…ทำ”งานสำคัญ”

ให้แบ่งแยก “งานสำคัญ” กับ “งานยิบย่อย” แล้วเลือกใช้พลังงานกับงานสำคัญเพื่อประสิทธิภาพของงานสำคัญจะได้ดียิ่งขึ้น

23.เพราะขี้เกียจก็เลย…พิมพ์สัมผัสให้ได้

เริ่มลงทุนกับตัวเองด้วยการฝึกทักษะด้านไอที โดยเริ่มจากการฝึกพิมพ์สัมผัสให้ได้ เพราะทักษะการพิมพ์สัมผัสเป็นเทคนิคที่เมื่อฝึกเป็นแล้วครั้งหนึ่งจะสามารถใช้ได้ไปชั่วชีวิต

นี่คือประเด็นสำคัญที่ถูกใจผมที่มาแชร์ให้ฟังนะครับ หวังว่าจะถูกใจและสามารถนำไปใช้ประพฤติปฎิบัติในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างน้อยก็สามารถใช้ชีวิตได้สบาย และ ขี้เกียจ ได้มากขึ้นนะครับ

 📖หนังสือ : เพราะขี้เกียจวุ่นวาย ชีวิตเลยสบายแบบนี้

📌ผู้แต่ง : นะโอะยุกิ ฮนดะ

สามารถสั่งซื้อได้ที่ลิงค์นี้

 


แนะนำบทความที่น่าสนใจ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *