บริหารเวลาง่ายๆ ด้วยการหลุดกับดักนิสัย 6 อย่าง

บริหารเวลาง่ายๆ ด้วยการหลุดกับดักนิสัย 6 อย่าง

ยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลย ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อย ๆ หรืออาจเป็นคนที่พูดออกมาเองด้วยซ้ำ

แต่หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมบางคนถึงทำงานได้มากมายทั้งที่ก็มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากับคนอื่น สามารถบริหารเวลาได้ดีมากๆในหนังสือเรื่อง Time Smart ของ Ashley Whillans อาจารย์จาก Harvard Business School ซึ่งเล่าว่าคนเรามักจะติดกับดักนิสัย 6 อย่างที่ขโมยเวลามากมายไปจากเราดังนี้ครับ

1.เราเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา

ใช่ครับ เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ขโมยเวลามหาศาลไปจากเรา ลองสังเกตดูจาก Screen Time ที่เราใช้ในแต่ละวันดูสิครับ แล้วเราจะตกใจว่าตัวเองใช้เวลาไปกับเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ไลน์ ยูทูบ เกมและอื่น ๆ มากมายขนาดไหน

ถ้าเราอยากได้เวลากลับคืนมา ให้ลดเวลาเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีลงบ้าง แค่นี้เราก็จะมีเวลา “ว่าง” ไปใช้พัฒนาตัวเองได้อีกเยอะเลยครับ

2.เราให้ความสำคัญกับงานและเงินมากจนเกินไป

ใช่ครับ งานและเงินเป็นสิ่งสำคัญ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ต้องทำงานหาเงิน แต่ที่กำลังจะบอกคือ เรามักมีแนวโน้มที่จะทำงานมากเกินไป สังเกตง่าย ๆ ว่าเราพร้อมสละวันหยุดเสาร์ อาทิตย์มาทำงานเสมอ แต่กลับไม่อยากสละวันธรรมดาที่ต้องทำงานมาใช้เวลาทำสิ่งที่ตัวเองรัก

หรือหลายคนยอมเลือกงานที่หนักกว่า เดินทางไกลกว่าเพียงเพื่อให้ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนเงินอาจไม่ได้ต่างกันมากมายนัก บางทีการยอมลดเงินเดือนลงอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีในการได้เวลากลับคืนมาให้ตัวเองมากขึ้นก็ได้นะครับ

3.เรามักจะไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเวลา

เวลาต่างจากเงินตรงที่เงินเห็นมูลค่าได้ชัดเจนกว่า เช่น เมื่อเราได้รับเงินมา 50,000 บาท เราก็จะเห็นตัวเลข 50,000 บาทเพิ่มขึ้นบัญชีชัด ๆ แต่ถ้าเราได้เวลาว่างเพิ่มขึ้นมา 1 วันต่อสัปดาห์อาจยังไม่ค่อยเห็นว่ามีประโยซน์อะไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนัก

ถ้าลองให้คุณค่ากับเวลามากขึ้นเช่น ลองถามตัวเองถ้าเหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือนบนโลกนี้เราจะทำอะไร เชื่อไหมครับว่าเราคงพยายามหาเวลาให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นได้โดยอัตโนมัติ

4.เรารู้สึกว่าการที่ตัวเองดู “ยุ่ง” คือสิ่งที่ทำให้ดูดี

นี่อาจเป็นวัฒนธรรมของคนในยุคนี้ก็ได้นะครับ ใครที่ดูยุ่ง ๆ จะดูเป็นคนที่มีคุณค่าและมีความสามารถ พูดง่าย ๆ ว่าดูดีกว่าคนที่มีเวลาว่างซะอีก เคยสังเกตไหมครับว่าในเฟซบุ๊กเราจะเห็นคนโพสต์ว่า “ยุ่งจัง” มากกว่า “ว่างจัง” เพราะการยุ่งนั้นดูดีกว่าการอยู่ว่าง ๆ

แต่จริง ๆ แล้วการยุ่งหรือการอยู่ว่าง ๆ แทบไม่ได้เป็นการบอกเลยครับว่าผลงานจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าเทียบระหว่างยุ่งแล้วผลงานไม่ดีกับมีเวลาว่างแล้วผลงานดี ผมว่าอย่างหลังดีกว่าเยอะ ลองลดความคิดที่ว่ายิ่งยุ่งยิ่งดีลง แล้วเราจะได้เวลากลับคืนมาครับ

5.เราไม่ชอบการอยู่ว่าง ๆ

ลายคนอาจมีอาการที่เรียกกันว่า Workaholic คือบ้างานพอมีเวลาว่างปุ๊บจะรู้สึกผิดกับตัวเองขึ้นมาทันที ต้องหางานอะไรสักอย่างมาทำ ไม่อย่างนั้นจะไม่ Productive ผมขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนมุมมองดูครับ การปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่างก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และถ้าอยากเป็นคน Productive จริง ๆ เราต้อง “ว่างให้เป็น” ด้วย

6.เรามักจะรับปากคนอื่นโดยไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน

สำหรับคนที่ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น หรือที่ยิ่งกว่านั้นคือเป็นคนที่ไม่ได้คิดจะปฏิเสธเลย ใครให้ทำอะไรก็ทำหมด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ถนัดหรือแทบจะไม่มีเวลาอยู่แล้ว ให้ลองหยุดคิดก่อนจะรับปากคนอื่นครับ ถ้าคิดว่าเราทำไม่ได้หรือต้องใช้เวลาทำนานก็ควรปฏิเสธและให้คนอื่นที่เก่งกว่าเราทำแทน ซึ่งจะเป็นการดีสำหรับเราและคนที่ไหว้วานเราด้วยถ้าเราอยากพัฒนาตัวเองแต่ “ไม่มีเวลา” ลองหลีกเลี่ยงกับดัก นิสัยทั้ง 6 อย่างนี้ดูนะครับ

#Moment of Learning

การบริหารเวลาที่หายไปจาจเป็นเพราะนิสัย 6 อย่างของเราเอง

 

หนังสือ : The Lost Skill

ผู้แต่ง : นภดล ร่มโพธิ์

สั่งหนังสือได้ที่ : https://click.accesstrade.in.th/go/tnX3rKNv