10 ข้อดีของงานประจำที่หลายคนมองข้าม

10 ข้อดีของงานประจำที่หลายคนมองข้าม

เราได้ยินได้ฟังข้อดีของการเป็น “นายของตัวเอง” มาพอสมควรไม่ว่าจะเป็นเรื่องการไม่ต้องออกไปเจอรถติด กำหนดเวลางานของตัวเองได้ มีโอกาสรวยเร็วกว่า และมีรายได้โดยไม่ต้องออกแรง ในบทความนี้ผมจึงอยากจะพูดถึงข้อดีของงานประจำที่เรามักจะมองข้ามไปนะครับ

1.ขอวีซ่าเดินทางไปต่างประเทศได้ง่ายมาก

ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ผมเคยขอวีซ่าไปต่างประเทศไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง และไม่มีครั้งใดเลยที่จะขอวีซ่าไม่ผ่าน หลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งในการยื่นวี่ซ่าคือ ใบรับรองเงินเดือน บริษัทจะออกจดหมายเพื่อรับรองว่าเราทำงานอยู่ที่นี่จริงๆ มีแหล่งรายได้ที่แน่นอน และไปเที่ยวแล้วจะกลับมาทำงานต่อ ทางสถานทูตก็จะสบายใจมากขึ้นที่จะออกวีช่าให้เราเพราะรู้แล้วว่าเรามีเงินไปให้ประเทศเขาแน่ๆ และโอกาสที่จะอยู่ประเทศเขาต่ออย่างผิดกฎหมายนั้นแทบจะเป็นศูนย์ 

แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นพนักงานประจำ ไม่มีกระแสรายได้ที่แน่นอน เราก็จำเป็นต้องมีเงินฝากในบัญชีก้อนใหญ่พอสมควรหรือไม่ก็ต้องแสดงให้เห็นว่าบัญชีของเรามีเงินไหลเข้าสม่ำเสมอซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยนะครับ

 

2.ขอสินเชื่อธนาคารในการซื้อทรัพย์สินชิ้นใหญ่ได้ง่าย

ก็เป็นกรณีเดียวกับการขอวีซ่า ที่เรื่องราวจะง่ายดายขึ้นมาก หากบริษัทของเราออกจดหมายรับรองเงินเดือนให้ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินก้อน แต่ถ้าเงินเดือนของเราสูงกว่าภาระที่ต้องผ่อนอย่างน้อยสักสองหรือสามเท่า ธนาคารก็ย่อมวางใจที่จะปล่อยกู้ให้เราครับ

ประเด็นนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าเราตั้งใจจะซื้อคอนโดหรือบ้านของตัวเอง เพราะธนาคารจะไม่ยอมปล่อยเงินกู้ก้อนใหญ่ให้กับคนที่ธนาคารไม่เชื่อว่ามีศักยภาพที่จะผ่อนได้

สมมติคุณจะซื้อคอนโดห้องละสองล้านบาท (ผ่อนประมาณเดือนละ 15,000 บาท) ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือน 40,000 บาท ก็อาจจะกู้ผ่านแล้ว (ถ้าไม่มีหนิสินอื่นๆ) แต่ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์และมีรายได้แค่ 40,000 บาทต่อเดือน ก็มีโอกาสสูงอย่างยิ่งที่ธนาคารจะไม่ปล่อยกู้ หรือถึงจะให้กู้ก็ไม่ได้ให้กู้เต็มจำนวน นั่นหมายความว่าคุณต้องใช้เวลาอีกพอสมควรที่จะเก็บเงินให้ได้ก้อนใหญ่เพื่อเอาไปวางดาวน์ครับ

สรุปก็คือ การทำงานประจำนั้นเพิ่มความสามารถในการสร้างหนี้ให้กับเรามากกว่างานประเภทอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะใช้ความสามารถนี้อย่างสุรุ่ยสุร่ายจนกลับมาทำร้ายตัวเองในภายหลังนะครับ

 

3.ยื่นภาษีได้ง่าย

ความปวดหัวอย่างที่สุดอย่างหนึ่งของอาชีพฟรีแลนซ์ หรือแม้กระทั่งเจ้าของกิจการก็คือการยื่นภาษีรายได้ประจำปี และสิ่งที่ปวดหัวยิ่งกว่าก็คือการรวบรวมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อการยื่นภาษีประจำปีครับ

ถ้าคุณทำอาชีพอย่างฟรีแลนซ์ ก็เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเก็บเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายจากผู้ว่าจ้างให้ครบทุกใบ ไม่อย่างนั้นตอนยื่นภาษีจะวุ่นวายและอาจต้องเสียภาษีมากกว่าที่วางแผนเอาไว้ และถ้าคุณยื่นภาษีไม่ครบถ้วน หรือแจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง คุณก็จะมีปัญหาทีหลังได้เช่นกัน

แต่ถ้าคุณเป็นพนักงานประจำ ทุกสิ้นเดือนบริษัทก็จะหักภาษีไว้ให้แล้ว สิ้นปีก็ส่งเอกสารที่เราจำเป็นต้องใช้มาให้ครบถ้วน เหลือแค่กรอกตัวเลข เข้าเว็บไซต์สรรพากร ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีก็เรียบร้อยแล้ว แถมบางบริษัทก็ช่วยยื่นภาษีให้เราเสร็จสรรพ ไม่ต้องเสียเวลาทำเองด้วย

 

4.มีวินัยการออมเงิน

พนักงานประจำจะมีสวัสดิการที่เรียกว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ช่วยให้เราออมเงินได้อย่างเป็นล่ำเป็นสันด้วยการหักรายได้ของเราไปลงทุนในกองทุนต่างๆ

ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ เงินที่เราออมไว้นั้นจะได้รับการสมทบจากบริษัทด้วย ยิ่งถ้าอยู่นาน เงินสมทบก็จะมากขึ้นตามลำดับ

จากประสบการณ์การทำงานสิบกว่าปีของผม เงินออมก้อนนี้ถือเป็นเงินออมก้อนใหญ่ที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นเงินที่เรามองไม่เห็นและถอนออกมาใช้ไม่ได้ง่ายๆ มันจึงค่อยๆเติบโตโดยไม่โดนแท้งเสียกลางคัน ในขณะที่ฟรีแลนซ์ไม่มีเงินออมส่วนนี้ อย่างมากก็ได้แค่ซื้อกองทุนหรือฝากประจำไว้ แต่พอถึงเวลาที่เงินช็อต (ซึ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยกับอาชีพนี้) ก็อาจอดไม่ได้ที่จะถอนเงินตรงนี้มาใช้ก่อน ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินก้อนใหญ่ได้เสียที

 

5.โอกาสเรียนรู้เยอะมาก

แน่นอนว่า Google ทำให้เราเรียนรู้อะไรได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือฟรีแลนซ์ก็ตาม แต่ถ้าเราได้เป็นพนักงานบริษัทชั้นนำ ก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้ในสิ่งที่ Google ก็อาจจะให้ไม่ได้ เพราะองค์กรที่ดีย่อมลงทุนในบุคลากรของตัวเองอยู่แล้ว ทั้งส่งไปอบรมและยอมเสียเงินสมัครบริการแหล่งเรียนรู้ต่างๆให้พนักงานเข้าไปใช้ได้ฟรีๆ ขึ้นอยู่กับเรา นั่นแหละว่าจะขวนขวายและใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด

 

6.ได้เจอสังคมหลากหลาย

การเป็นนายตัวเองอาจมีข้อดีตรงที่ทำงานที่บ้านได้ แต่นั่นก็อาจหมายความว่า ในแต่ละวันเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จนแทบไม่ได้ออกไปเจอกับผู้คน เวลากินข้าวก็มักต้องกินคนเดียว ถ้าอยู่ในวงจรชีวิตนี้นานๆ ก็อาจจะทำให้กลายเป็นคนที่สังคมคับแคบไปโดยปริยาย เพราะหลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่ได้มีเพื่อนใหม่เพิ่มเติมขึ้นเลย

ในขณะที่คนที่ทำงานออฟฟิศจะได้เจอชีวิตที่ครบรสกว่าเจอเพื่อนร่วมงานเก่งๆ เจอคนฮาๆ เจอสาวสวยหนุ่มหล่อ ได้ออกไปร้องคาราโอเกะหรือนัดไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แถมเพื่อนกลุ่มนี้อาจจะแนะนำสิ่งดีๆให้เราในอนาคตได้อีกด้วย

 

7.มีตารางเวลาทำงานและวันหยุดชัดเจน

การทำงานประจำนั้นถึงแม้จะทำงาน 8 โมง เลิก 5 โมง เช้ายันเย็น แต่หลังจากนั้นถือว่าเป็นอิสระ เวลาหลังเลิกงานนั้นขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะนำไปใช้ทำอะไร รวมถึงวัน หยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ชัดเจนสามารถวางแผนได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังไม่วันลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน ตามที่บริษัทกำหนด สามารถนำไปวางแผนทำทำอย่างอื่นได้

ต่างจากเจ้าของธุรกิจ หรืองานฟรีแลนซ์ ถึงแม้ว่าจะสามารถหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่งานเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้องเข้ามาดูโดยทันที บางครั้งถ้าหากลาพักร้อนนานๆก็เกิดความกังวลว่าจะเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า เพราะเรานั้นเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นเอง

อย่างบางธุรกิจเช่น ยี่ปั๊วะ หากเราเป็นเจ้าของร้านเอง ถ้าวันไหนเราหยุด วันนั้นคือรายได้เราเท่ากับ 0

 

8.ถ้าหากบริษัทเกิดภาวะขาดทุน อย่างมากก็โดนจ้างออก

บางครั้งถ้าหากเจอพิษเศรษฐกิจต่างๆ บริษัทเกิดภาวะขาดทุนอย่างหนักตัวเราก็ถูกจากออก โดยที่เราก็ยังได้เงินชดเชยไว้ตั้งหลักหางานอื่นหรือไปเปิดธุรกิจตัวเอง แต่ถ้าหากเราเป็นเจ้าของธุรกิจที่เจอพิษเศรษฐกิจช่วงนั้นก็จะเกิดภาวะขาดทุนเอง บางเงินที่หามาทั้งชีวิตก็หายไปภายในครั้งเดียว รวมถึงอาจเป็นหนี้ที่ต้องมาใช้อีกด้วย

 

9.มีหน้าที่รับผิดชอบงานในขอบเขต  คุณมีหน้าที่ในการทำงานที่ชัดเจน ว่าคุณต้องทำอะไร ทำแค่ไหน ทำตามหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบ

หน้าที่การทำงานก็ขึ้นอยู่กับ Job Description ถ้าหากบริหารงานประจำที่ทำได้ทั้งหมด ก็สามารถเหลือเวลาไปทำอย่างได้อีกด้วย

 

10.มีโบนัสก้อนโต  มีสวัสดิการที่ดี

อย่างที่กล่าวไปครับ การได้โบนัสนั้นก็เหมือนเงินเก็บที่สะสมมาให้เรา ณ เดือนนั้น บางครั้งถ้าไม่ได้โบนัสแบบนี้เราก็อาจไม่มีเงินก้อนไว้ใช้ก็เป็นได้ รวมถึงบริษัทชั้นนำยังมีสวัสดิการที่ดี เช่นประกันสุขภาพ ให้อีกด้วย

ที่เขียนข้อดีของงานประจำมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อจะบอกว่าการทำธุรกิจส่วนตัวไม่ดีนะครับ เพียงแต่อยากจะซื้ให้เห็นว่า ทั้งการทำธุรกิจส่วนตัวและการทำงานประจำก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุด มีแต่คำตอบที่เหมาะกับตัวเราเท่านั้นครับ

หนังสือ : Thank God It’s Monday
ผู้แต่ง : อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์
สั่งหนังสือได้ที่ : https://click.accesstrade.in.th/go/5TBDkc7Z