ไม่มีสิ่งใดแน่นอนในโลก ชัวร์ 100% (นอกจากความตาย) หลายคนรับรู้แต่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ ทำให้บางครั้งดำเนินชีวิตด้วยความประมาทคิดว่าคนโน้นเป็นคนดี คนนี้เป็นคนดี ไม่มีทางโกงเราหรอก แต่สุดท้ายคนดีในสายตาเรากลับสร้างความเจ็บใจให้เราอย่างหนัก
เนื้อหาจากสามก๊ก
ภายหลังจากขงเบ้งเสียชีวิต สุมาอี้ยกทัพกลับวุยก๊ก โจซองลูกชายโจจิ๋นเห็นเป็นจังหวะเหมาะจึงถวายฎีกาให้พระเจ้าโจยอย เลื่อนขั้นสุมาอี้เป็นราชครู เนื่องจากสูงวัยไม่เหมาะที่จะรบทัพจับศึก และด้วยความที่เป็นคนมีประสบการณ์มากก็ควรมาถวายงานในเรื่องการให้คำปรึกษาพระเจ้าโจยอยจึงเลื่อนตำแหน่งสุมาอี้จากแม่ทัพใหญ่ขึ้นเป็นราชครู ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ผู้คนนับหน้าถือตา แต่ไม่มีอำนาจทหารในมือ การเลื่อนตำแหน่งแบบนี้จึงเท่ากับเป็นการ”ริบ” อำนาจสุมาอี้อย่างสุภาพและไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
สุมาอี้รู้ทันทีเลยว่าถูกการเมืองเล่นงานอีกแล้ว จึงบอกให้ลูก ๆ รีบลาออกจากราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกโจมตีจากตระกูลโจ ส่วนสุมาอี้ก็แสร้งมาทำงานบ้าง ไม่มาบ้าง จนพระเจ้าโจยอยสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้น้อยโจฮองขึ้นครองราชย์สุมาอี้ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ยิ่งระยะหลังมักอ้างเจ็บป่วยไม่มาเข้าเฝ้า
โจซองส่งคนไปเยี่ยมสุมาอี้ถึงบ้าน สุมาอี้แสร้งทำทีว่าตนเองป่วยใกล้ตาย พูดจาไม่รู้เรื่องทำเป็นหูตึง ปล่อยผมเผ้ารุงรัง กินอาหารยังกลืนลำบาก เพื่อตบตาลูกน้องโจซองเรื่องสุมาอี้ใกล้ตายรู้ไปถึงหูโจซอง สร้างความยินดีให้กับโจซองมาก จนถึงกับชะล่าใจตระเตรียมจัดกองทหารอารักขา ทูลเสด็จฮ่องเต้ไปไหว้สุสานบรรพชนที่โกเบงเหลง จากนั้นจึงออกไปล่าสัตว์
แม้จะมีคนมาห้ามไม่ให้โจซองนำทหารของตนเองและพี่น้องไปร่วมงานล่าสัตว์จนหมด เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินในพระนครจะไม่มีใครรับมือหรือกอบกู้สถานการณ์ได้ทัน แต่โจซองก็ไม่เชื่อเพราะเขาคิดว่าสุมาอี๋ใกล้ตายแล้วเสี้ยนหนามย่อมไม่เหลือ แต่โจซองคิดผิด !!!
จู่ๆ สุมาอี้ก็ระดมขุนพลและกองกำลังหลักขึ้นมา นำทัพเข้ายึดจุดยุทธศาสตร์ในเมืองหลวง จากนั้นจึงนำทหารเข้าวัง เข้าพบไทเฮาเพื่อขอพระเสาวนีย์รับสั่งปราบโจซอง จากนั้นจึงเคลื่อนทัพปราบโจซอง แม้โจซองจะมีฮ่องเต้น้อยเป็นตัวประกัน แต่สุมาอี้ก็ไม่สนใจ สุดท้ายโจซองยอมแพ้นำไปสู่การประหารล้างโคตรราชสกุลโจและตระกูลแฮหัว
วุยก๊กแม้จะมีฮ่องเต้แซโจ แต่อำนาจอยู่ในมือแซ่สุมา ในทางนิตินัย วุยก็กล่มสลายเป็นก๊กที่สอง แต่ในทางพฤตินัยวุยก๊กคือแคว้นแรกที่ล่มสลาย บทสรุปสุดท้ายคงไม่ต้องทายว่าฮ่องเต้แซ่โจจะมีสภาพเหมือนฮ่องเต้แซ่เล่า แบบพระเจ้าเหี้ยนเต้หรือเปล่า
โจซองคือแบบอย่างที่ชัดเจนในเรื่องความประมาท ทั้งที่ยังไม่เห็นศพสุมาอี้ก็ปักใจเชื่อว่าสุมาอี้หมดสภาพ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้สุดท้ายความเชื่อแบบนี้น้ำไปสู่ความประมาทและปิดฉากด้วยหายนะล้างโคตร…
ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้
คุณผู้อ่านครับ ไม่มีสิ่งใดแน่นอนในโลก ที่ชัวร์ 100% มันมีโอกาสพลิกได้เสมอ บางที่เก็บเช็คมาจากลูกหนี้หรือถูกค้าเช็คยังติดสปริงเตังได้ แทนที่จะได้เงินก็กลับกลายต้องมาเสียเวลาจัดการเรื่องเช็คเด้ง ในบางการติดต่อหรือบางสัญญาธุรกิจ ก็อย่าเพิ่งคิดว่าเซ็นสัญญากันแล้วเขาจะไม่เบี้ยว เพราะคนเราถ้าจะเบี้ยว “สัญญามันก็แค่กระตาษเปื้อนหมึก” ใจคนหยั่งยาก โบราณถึงกล่าวไว้ว่า “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”
การที่คุณเป็นคนดีย่อมเป็นเรื่องดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกโกงจากพวกเหลี่ยมจัด ฉะนั้นจะทำสิ่งใดจงอย่าประมาท โลกใบนี้ไม่มีความชัวร์ 100% พูดง่าย ๆ ทุกอย่างคือความเสี่ยง เพียงแต่เสี่ยงน้อยหรือเสี่ยงมากเท่านั้น
———————————–
หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk
บทความน่าอ่าน