อย่าร่วมงานกันหากไม่ชัดเจนเรื่องผลประโยชน์ เรื่องผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน ทว่าสิ่งที่เหนือกว่าผลประโยชน์คือ ความชัดเจนในการแบ่งผลประโยชน์ เพราะหากไม่แบ่งให้ชัด ไม่ช้าพันธมิตรก็แตกคอ พี่น้องก็ห้ำหั่นไม่ยั้งไม่ตรี
เนื้อหาจากสามก๊ก
เล่าปี่และคณะหนีการตามล่าของโจโฉมาอยู่กับเล่ากี๋ที่เมืองกังแฮ ทว่าทั้งสองคนพยายามที่จะหาโอกาสเข้าไปหาซุนกวน โลซก ฑูตแห่งกังตั๋งเดินทางมาพบเล่าปี่พอดี
ขงเบ้งเห็นช่องทางที่จะเข้าไปกังตั๋ง จึงได้หารือกับเล่าปี่ว่าจะขออาสาเป็นทูตชักจูงให้ซุนกวนเปิดฉากทำสงครามกับโจโฉ ขงเบ้งกล่าวว่า “เมื่อสองฝ่ายทำศึกเราย่อมหาประโยชน์ หากซุนกวนชนะโจโฉ เราจึงค่อยไปยึดเกงจิ๋ว แต่หากซุนกวนพ่ายโจโฉ เราก็จะยกทัพจากกังแฮเข้ายึดกังตั๋งเพื่อเป็นที่มั่นของท่าน”
เล่าปี่ได้ฟังแผนการของขงเบ้งถึงกับตะลึกในความคิด จึงถามขงเบ้งว่า “มาถึงขนาดนี้ท่านยังคิดเป็นใหญ่อีกหรือ”
ขงเบ้งจึงกล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของงานใหญ่ย่อมมาจากจุดคับขันทั้งสิ้น เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่เหลืออะไรนอกจากชีวิต ฉะนั้นถึงจุดนี้ต้องเดินหน้าฟังฝ่า”…
ข้อสรุปแนวคิดจากเรื่องนี้
คุณผู้อ่านครับ นี่คือความคิดของขงเบ้งในการมองพันธมิตรอย่างกังตั๋ง เขาไม่ได้เริ่มต้นด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ หากแต่เริ่มต้นด้วยแผนอุบาย เพื่อที่จะหาฐานที่มั่นให้เล่าปี่ ไม่ว่าใครชนะเขาก็จะต้องได้ผลประโยชน์
นักธุรกิจสไตล์ขงเบ้งมีเยอะครับ เราเรียกคนพวกนี้ว่า “เสือหิว” แต่ไม่ว่าจะหิวขนาดไหนก็ยังคงความสุขุม มีภาพลักษณ์ที่ดีดูและน่าเชื่อถือ คนพวกนี้ฉลาดมากครับ ไม่เคยทำอะไรตรงไปตรงมา รู้จังหวะในการซิกแซ็กหาประโยชน์ทั้งจากหุ้นส่วน และประโยชน์จากการค้า ทำธุรกิจกับคนพวกนี้ต้องรอบคอบ โดยเฉพาะการตกลงผลประโยชน์ต้องชัดเจน
สำหรับคนกลุ่มนี้เรามักได้ยินคำว่า “ยังไม่ทันร่วมงานก็ถามถึงผลประโยชน์” พูดดูดี ส่วนคนอื่นกลายเป็นคนเห็นแก่เงิน ถามหน่อยเถอะว่า ใครทำงานไม่เอาเงิน ใครบ้างไม่เห็นแก่เงิน ทุกคนต่างก็ทำงานเพื่อเงิน แต่เงินที่ได้เราหาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่คดโกง เอาเปรียบ ฉะนั้นอย่าอายต่อคำพูดของคนพวกนี้
หนังสือ : อยู่อย่างฉลาด อยู่อย่างสามก๊ก
ผู้แต่ง : เปี่ยมศักดิ์ คุณากรประทีป
สั่งหนังสือได้ที่ : https://bit.ly/3zu6Llk
บทความน่าอ่าน