ทำไมคนรวยยิ่งรวยขึ้น และคนจนยิ่งจนลง?
จะรวยหรือจน ดูยังไง?
สำหรับงบการเงินที่บอกเล่าถึงความมั่งคั่งของคนเราคือ งบแสดงฐานะทางการเงินหรืองบดุล
ความยุ่งยากเพียงอย่างเดียวของการทำงบแสดงฐานะทางการเงินก็คือ นิยามของคำว่า ทรัพย์สิน และหนี้สิน ที่แทบไม่น่าเชื่อคือ แค่นิยามง่ายๆไม่กี่คำไม่กี่ประโยคนี่แหล่ะ มันสามารถแบ่งได้เลยว่าคุณจะกลายเป็นคนรวยหรือเป็นคนจนในอนาคต นิยามดังกล่าวคือ
ทรัพย์สิน (Assets) คือ สิ่งที่เมื่อเราครอบครองมันแล้วทำให้เงินไหล “เข้า” กระเป๋าเรา ซึ่งอาจได้แก่ ธุรกิจ บ้านเช่า หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม เงินฝาก และลิขสิทธิ์ ฯลฯ
หนี้สิน (Debt) คือสิ่งที่เมื่อเราครอบครองมันแล้วทำให้เงินไหล “ออก” จากกระเป๋าเรา ซึ่งได้แก่ หนี้กู้บ้าน หนี้กู้ซื้อรถยนต์ หนี้บัตรเครดิต สิ่นเชื่อส่วนบุคคล และหนี้นอกระบบ ฯลฯ
ทั้งนี้การจะตัดสินว่าสิ่งใดเป็นทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เราซื้อ แต่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่เกิดกับกระแสเงินสดของเรา
ยกตัวอย่างเช่น หนึ่งในความเข้าใจผิดทางการเงินอันดับต้นๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินคือ การเชื่อว่าบ้านที่เรากู้ซื้อจากธนาคารเป็นทรัพย์สิน แท้ที่จริงแล้ว บ้านเป็นหนี้สิน ทั้งนี้เพราะเมื่อเรากู้ซื้อบ้าน โดยจดจำนองบ้านไว้กับธนาคาร สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ภาระที่ต้องผ่อนเป็นประจำทุกเดือน ดังนั้นที่ถูกต้อง บ้านที่เรากู้ซื้อจากธนาคารเพื่ออยู่อาศัย จึงเป็นหนี้สิน (ไม่ใช่ทรัพย์สิน)
ตรงกันข้าม หากเรากู้ซื้อบ้านสักหนึ่งหลังแล้วปล่อยเช่า โดยได้ค่าเช่ามากกว่าค่าใช้จ่ายและผ่อนธนาคาร และมีเงินส่วนต่างเหลือเข้ากระเป๋าทุกเดือน แบบนี้บ้านที่เราซื้อเพื่อปล่อยเช่า ก็กลายเป็นทรัพย์สิน
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า แสดงว่าไม่ควรกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยเองอย่างนั้นหรือ
คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ
ที่ถูกต้องคือ ถ้าจำเป็นก็ต้องซื้อ และอีกประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาประกอบกันคือ ต้องดูด้วยว่าผ่อนไหวหรือไม่ ถ้าเป็นและเลือกขนาดที่เหมาะสม เราผ่อนไหว ก็ซื้อไปเถอะครับ ไม่ผิดอะไร
ในความเป็นจริงแล้ว คนรวยก็ไม่ได้มีแต่ทรัพย์สินนะครับ พวกเขาก็มีหนี้สินกันทั้งนั้นแหล่ะ และก็มีทั้งหนี้จนและหนี้รวยด้วย แต่สิ่งที่พวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไปคือ
คนรวยสร้างทรัพย์สินก่อนซื้อหนี้สิน ก็เท่านั้นเองครับ
หนังสือ : คนไทยฉลาดการเงิน (Money Literacy)
ผู้แต่ง : จักรพงษ์ เมษพันธุ์, ศักดา สรรพปัญญาวงศ์, ถนอม เกตุเอม